ชุมพร - รถทัวร์โดยสารขนแรงงานต่างด้าว 46 รายผ่านชุมพร รับค่าจ่าง 50,000 บาท
วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับจังจาก ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ . ร.ต.อ.ชรัณ ปาณะศรี รอง สว. ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ธนพนธ์ เกิดเขาทะลุ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., จ.ส.ต.สราวุธ กรรณสุรางค์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., จ.ส.ต.อมรเทพ อินนิมิตร ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ตำรวจทางหลวงชุมพร เรียกตรวจสอบรถทัวร์ กทม.-คลองท่อม-กระบี่ (บ.ลิกไนท์ทัวร์) พบมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 46 ราย
ได้ร่วมกันจับกุม นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ชาว ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นายทศพร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ชาว ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา นายศุภกิจ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ชาว ตำบลบางวัน อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ทั้งสามคนเป็นพนักงานประจำรถ คนขับ 1 คน เด็กรถ 2 คน
เหตุเกิด ริมถนน ทล.4 (เพชรเกษม) กม.483 (ขาล่องใต้) ม.9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การสั่งการของผู้บังคับบัญชาได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2408 ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ขณะมาถึงบริเวณ ทล.4 (เพชรเกษม) กม.483 (ขาล่องใต้) ม.9 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบรถทัวร์โดยสารต้องสงสัย ยี่ห้อ SCANIA สีขาว-ฟ้า ทะเบียน 14-2301 กทม. ของบริษัทลิกไนท์ทัวร์ ขับมาในลักษณะแช่ขวายาวตลอดเส้นทางเดินรถ โดยได้แซงรถวิทยุขึ้นมาในช่องทางขวา เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตาม พร้อมส่งสัญญาณเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อว่ากล่าวตักเตือน เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุดแล้วนั้น รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วลักษณะคล้ายจะหลบหนี
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถส่งสัญญาณให้รถโดยสารประจำทางคันดังกล่าวหยุดแล้ว จึงได้ลงตรวจสอบพบว่า มีผู้ขับขี่ประจำรถเป็นชาย ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ อึ่งทอง และมี นายทศพร ศาสตร์มะเริง เป็นผู้ขับขี่ประจำรถคนที่ 2 และ นายศุภกิจ มิ่งพิจารณ์ ซึ่งเป็นพนักงานประจำรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถามบุคคลทั้ง 3 คน ว่าเหตุใดจึงไม่จอดรถขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกให้หยุด ทั้ง 3 คน กลับมีท่าทางพิรุธ ต้องสงสัย พูดจาวกไปวนมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขึ้นไปตรวจสอบบุคคลภายในรถทัวร์โดยสาร และพบว่าบุคคลที่นั่งมาในรถทัวร์โดยสารนั้น เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เป็นเพศชายจำนวน 30 คน และเพศหญิงจำนวน 16 คน และมีผู้ติดตามเพศหญิง 1 คน รวมทั้งหมด จำนวน 46+1 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดงตนหรือหลักฐานแสดงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยสารมาร่วมกับผู้โดยสารซึ่งเป็นคนสัญชาติไทย ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีผู้โดยสารซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่ได้ซื้อตั๋วและมีที่นั่งทั้งสิ้นจำนวน 20 คน (รายละเอียดปรากฏตามตั๋วโดยสารในบัญชีของกลาง) ส่วนที่เหลือไม่พบตั๋วโดยสาร โดยพบว่ามีคนต่างด้าวซุกซ่อนอยู่ในช่องนอนหลังเบาะผู้ขับขี่จำนวน 10 คน และซุกซ่อนอยู่ในช่องใส่กระเป๋าใต้ท้องรถอีกจำนวน 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 11 คน นั่งกระจายอยู่บริเวณเบาะผู้โดยสารด้านหลังรถ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือซ่อนเร้น ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ขับขี่และพนักงานประจำรถที่รู้เห็นในการนำพาบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 คน และบุคคลต่างด้าวทั้งหมด พร้อมรถของกลางมายังสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด
จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ฯ ผู้ขับขี่ประจำรถ นายทศพรฯ และนายศุภกิจฯ ให้การรับสารภาพว่า บุคคลต่างด้าวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางและเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนำรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้มีผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วจำนวน ทั้งสิ้น 20 คน และยอมรับว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าเป็นคนไทยไม่ทราบชื่อที่อยู่ ได้ใช้เบอร์โทร 095-0526305 และ เบอร์ 099-4042725 ให้มารับบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารประจำตัวและไม่มีตั๋วโดยสารอีก จำนวน 2 จุด หลังจากออกจากสถานีขนส่งสายใต้ จุดแรกที่ จ.สมุทรสาคร และมารับจุดที่ 2 ที่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งจะมีเบอร์โทรของนายหน้าโทรมาหาและบอกจุดรับ-ส่ง ตลอดเส้นทาง โดยได้รับค่าจ้างรวมเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท จะโอนให้หลังจากส่งบุคคลต่างด้าวถึงจุดหมายปลายทาง โดยจุดหมายปลายทางที่กำหนดคือจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม พร้อมของกลาง รถโดยสารประจำทาง ยี่ห้อ SCANIA สีขาว-ฟ้า ทะเบียน 14-2301 กทม. เลขตัวถัง YS4K6X20001842811 โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO สีดำ เอไอเอส เบอร์โทร 093-0044986 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Sumsung สีดำ เอไอเอส เบอร์โทร 080-6951375 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Vivo สีดำ เอไอเอส เบอร์โทร 098-1187669 จำนวน 1 เครื่อง ตั๋วโดยสาร เส้นทางสายใต้-คลองท่อม วันที่ 25 มิ.ย.68 ของบริษัท ลิกไนท์ทัวร์ จำนวน 14 ใบ และวันที่ 21 ก.พ.68 จำนวน 6 ใบ (ตรวจยึดได้จาก นายศุภกิจ มิ่งพิจารณ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ) ผู้ต้องหาได้แจ้งให้ญาติแล้ว ทั้ง 3 คน ทราบถึงการถูกจับกุมแล้ว และให้การรับสารภาพ
ล่ามภาษาชื่อนายจอย เหมียวสุรจอย มาจากหลายที่มาจากเมืองมันดาเลย์ มาจากย่างกุ้ง มาจากเมืองมอละแม จะเดินทางไปมาเลเซียค่าตัวเงินพม่าก็ 7,500,000 - 8,500,000 ต่อคนเป็นค่าเดินทางวันนี้เดินทางมากัน ทั้งหมด 46 คนจะเดินทางไปยังประเทศที่สามเป้าหมายก็คือมาเลเซียเพราะจะมีญาติญาติคอยรับอยู่ที่ประเทศที่สามอยู่แล้ว
ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ กล่าวว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของการค้นแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ประเทศไทยเพื่อออกไปประเทศเพื่อนบ้านจากประเทศต้นทางผ่านประเทศไทยและพาออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้รูปแบบของรถโดยสารประจำทางสาธารณะอย่างเคสนี้ก็จะมีการแบ่งแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 46 คนแบ่งออกเป็นสามจุดขึ้นจุดแรกเป็นการซื้อตั๋วกับบริษัทโดยตรง ประมาณ 20 คนขึ้นที่ขนส่งสายใต้โดยซื้อตั๋วตามระบบถูกต้องหมดถ้าอีกจุดหนึ่งขึ้นซักประมาณ 10 ห้าคนขึ้นมาจากตัวเมืองมหาชัยจุดสุดท้ายก็จะมาขึ้นที่ตัวเมืองแม่กองซึ่งทั้งหมดเป็นสัญชาติพม่าเป็นการลักลอบเข้าเมืองมาจากทางกาญจนบุรีบริเวณเขตติดต่อ พญาองค์ซู เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่สมุทรสาครสมุทรสงครามก่อนที่จะมีการนัดหมายรวมตัวกันเพื่อที่จะเดินทางมาขึ้นรถทัวร์ปะปนมากับคนไทยเพื่อที่จะเดินทางลงทางภาคใต้ของไทยก่อนที่จะมีการส่งต่อให้อีกหนึ่งช่วงรับข้ามแดนไปสู่ประเทศที่สามเป็นรูปแบบนี้ครับเบื้องต้นกลุ่มผู้กระทำความผิด ก็จะคนขับรถทัวร์แล้วก็พนักงานประจำรถอีกสองทั้งสามคนทำงานด้วยกันเคยทำงานมาแล้วไม่ต่ำกว่าหกครั้งยอมรับว่าครั้งนี้เป็นการขนมาเยอะที่สุดโดยใช้ต่างชาติจะต้องเสียค่าหัวให้กับนายหน้าคนละ 120,000 บาทต่อรายและคนรถรับจ้างขนเที่ยวละ 50,000 บาทเมื่อนำแรงงานไปส่งอย่างที่หมายแล้วก็จะมีการโอนเงินให้เขา บัญชี
ธนากร โกศลเมธี/รายงาน
0 ความคิดเห็น