"ฟ้องฝ่ายเดียว ก็เอา!" ฮุน มาเน็ต ตั้งทีมยื่นศาลโลก ICJ ทวงสิทธิ์ 'สามเหลี่ยมมรกต' และ 3 ปราสาท – ไทยโต้ทันควัน ไม่รับอำนาจศาล

กระแสใต้ มิถุนายน 10, 2568

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง หลังจาก พลเอก ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ออกมาโพสต์ผ่านช่องทางสื่อสารทางการ ว่าตนได้ลงนามในคำสั่งตั้ง “คณะกรรมการจัดทำเอกสาร” เพื่อเตรียมการฟ้องร้องต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยมีเป้าหมายในการอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่สำคัญ ได้แก่

สามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle)

จุดผ่านแดนช่องบก Mumbai

ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย

โดยฮุน มาเน็ต ย้ำว่ากัมพูชามีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเอกสารสิทธิเหนือพื้นที่ดังกล่าว พร้อมจะใช้ช่องทางทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ตามที่ประเทศตนเห็นว่าเหมาะสม

ในด้านของประเทศไทย นายกรัฐมนตรีไทย ได้แถลงอย่างชัดเจนในวันเดียวกันว่า รัฐบาลไทยจะไม่รับรองอำนาจของศาลโลก (ICJ) ในกรณีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าพื้นที่ที่กัมพูชาจะฟ้องนั้น อยู่ภายใต้การปกครองของไทยอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยอยู่ในข้อตกลงใดที่ให้สิทธิศาลระหว่างประเทศมาตัดสินชี้ขาด

ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์

ทั้งสองประเทศเคยมีกรณีพิพาทเรื่องเขตแดนมาก่อน โดยเฉพาะกรณีของ “ปราสาทพระวิหาร” ที่เคยมีการตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505 ให้ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่โดยรอบยังคงเป็นที่ถกเถียง รวมถึงการวางกำลังทหารในพื้นที่ที่นำไปสู่เหตุปะทะอยู่บ่อยครั้งในอดีต

การฟ้องฝ่ายเดียวอาจซ้ำรอยความตึงเครียด

ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมองว่า การดำเนินการฝ่ายเดียวเช่นนี้โดยกัมพูชา อาจเป็นการจุดชนวนความตึงเครียดใหม่ในภูมิภาค และอาจส่งผลต่อความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างสองชาติ หากไม่มีการเจรจาในกรอบทวิภาคีเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของทั้งสองรัฐบาล ว่าจะเลือกเดินหน้าด้วยนโยบายการเผชิญหน้า หรือเปิดช่องทางการทูตเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกันนับพันกิโลเมตร

ต่างประเทศ