ขนมครกในวันวาน … กลิ่นหอมไอถ่านและรสชาติที่ไม่เคยลืม
หากพูดถึง “ขนมครก” ภาพในความทรงจำของคนรุ่นเก่า มักไม่ใช่ขนมครกใส่ทอปปิ้งล้นถ้วย หรือเสิร์ฟเป็นแผงใหญ่ให้ตัดด้วยกรรไกรเหมือนทุกวันนี้ แต่คือขนมครกร้อน ๆ จากเตาถ่าน ที่มีกลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่เช้าตรู่
ในอดีต ขนมครกต้องใช้ฝาปิดหลุมเล็ก ๆ แต่ละหลุม ไม่ใช่ฝาใหญ่ปิดรวดเดียวทั้งเตาอย่างสมัยนี้ คนขายจะนั่งข้างเตาถ่าน พลิกดูทีละหลุม คอยเช็กว่าด้านล่างสุกกำลังดี กลิ่นหอมของกะทิสดผสมข้าวหอมควันไฟนั้น…ชวนให้ยืนรอแม้ต้องต่อคิวยาว
ไม่มีสารพัดหน้า ไม่มีข้าวโพด เผือก หรือฟักทองใส่ล้น มีเพียงความหอมมันของกะทิ โรยต้นหอมพอให้ตัดรสเค็มนิด ๆ แป้งบางด้านล่างกรอบ ด้านบนยังนุ่มละลายในปาก ความเรียบง่ายนั้นเองที่ทำให้รสชาติคลาสสิกและลงตัว
แต่ละหลุมเป็นหลุมใครหลุมมัน คนขายตักเสิร์ฟร้อน ๆ วางในกระทงใบตองเล็ก ๆ ถือไปกินระหว่างเดินกลับบ้าน หรือไปทำงาน เช้าหน้าหนาวไอร้อนจากขนมครกยังอุ่นมือ ส่วนเช้าหน้าร้อน…กลิ่นหอมก็ทำให้ลืมอากาศอบอ้าว
ปัจจุบัน “ความเร็ว” เข้ามาแทนที่พิถีพิถัน เตาถ่านถูกแทนด้วยเตาแก๊ส ฝาปิดหลุมถูกแทนด้วยฝาใหญ่ยกกาน้ำกระทิราดทีเดียว ทำเสร็จเป็นแผง ๆ เพื่อขายให้ทันคนซื้อ รสชาติที่ได้จึงต่างออกไป ขอบกรอบจัด บางเจ้าก็เน้นใส่เครื่องจนล้น แต่กลับขาดเสน่ห์ของความกลมกล่อมแบบเดิม
หลายคนรุ่นใหม่อาจบอกว่า “ขนมครกไม่อร่อย” แต่สำหรับใครที่เคยตื่นเช้ามาซื้อขนมครกเตาถ่าน…ย่อมรู้ดีว่า รสชาติหอมมันแบบดั้งเดิมนั้นไม่มีอะไรมาแทนที่ได้เลย
ที่มา เจาะเวลาหาอดีต
https://www.facebook.com/share/174p9ToVof/


0 ความคิดเห็น