พระครูอนุกุลกัลยาณพจน์ เจ้าอาวาสวัดต่อแพ พระคิลานุปัฏฐาก พระต้นแบบด้านสุขภาพ นำพาวัด- ศรัทธาญาติโยม และชุมชนบ้านต่อแพ อยู่เย็นและเป็นสุข

วันที่ 2 สิงหาคม 2568 นายบุญสม เมืองนำโชค ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า วัดต่อแพ ตั้งอยู่ที่ บ้านต่อแพ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน มีความเป็นมาเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของลำน้ำยวม มีผ้าม่านประดับทับทิม จากประเทศพม่า อายุมากกว่า 150 ปี มีศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมพม่าผสมไทใหญ่ที่สวยงามที่สุดในอำเภอขุนยวม อีกทั้งยังมีวิหารและเจดีย์ที่สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2463 วัดต่อแพ ได้ขึ้นทะเบียนตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2461 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2525 วัดต่อแพ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เป็นศูนย์รวมของการสืบสานประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น เช่น ประเพณีปอยส่างลอง ประเพณีปอยจ่าตี่ และประเพณีปอยเหลิน 12

วัดต่อแพ ปัจจุบัน มีพระครูอนุกุลกัลยาณพจน์ เจ้าคณะตำบลขุนยวม-แม่เงา ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดต่อแพ ท่านเป็นผู้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดทุกประเภท มีการเทศนาธรรมสร้างความเข้าใจ และให้วัดเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ 100% พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยนำความรู้ที่ได้จากการไปอบรมเป็นพระคิลานุปัฏฐาก มาดูแลพระสงฆ์ในวัด และชาวบ้านที่เข้ามาปฏิบัติธรรม โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนและดูแลของโรงพยาบาลขนยวม และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลต่อแพ ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ในการส่งเสริมให้พระสงฆ์ สามเณร และศรัทธาสาธุชน มีสุขภาพที่ดี ส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกายด้วยการพัฒนาพื้นที่วัด การตรวจสุขภาพประจำปี การรับประทานอาหารอย่างพอเหมาะ การพักผ่อนด้วยการทำสมาธิ และเจริญสติอย่างมีวินัย

พระครูอนุกุลกัลยาณพจน์ เจ้าอาวาสวัดต่อแพ เป็นผู้ยึดมั่นในหลักการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยอาศัยความร่วมมือเป็นทีม ระหว่างพระ ญาติโยม และบุคลากรสาธารณสุข ในรูปแบบของ บวร บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการ

อีกทั้งได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในเพศบรรพชิต ดำรงตนให้เป็นที่เคารพเลื่อมใสของคณะสงฆ์ และญาติโยม โดยอาศัยหลักแห่งธรรมะเป็นเครื่องนำทาง และการกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ ได้แก่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคณะสงฆ์ภายในวัดและชุมชน สนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาส่งเสริมในการร่วมกิจกรรมพัฒนาในทุกกิจกรรม จนเกิดผลสัมฤทธิ์ คณะสงฆ์ พระภิกษุ สามเณร ศรัทธา ญาติโยมให้การยอมรับ ได้รับการสนับสนุน จากพระภิกษุ สามเณรภายในวัด และกลุ่ม/องค์กรต่าง ๆ รับฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการจัดกิจกรรม

พระครูอนุกุลกัลป์ยาณพจน์ เจ้าอาวาสวัดต่อแพ ได้เจริญพรว่า วัดต่อแพคือวัดส่งเสริมสุขภาพชุมชน พระสงฆ์ก็เป็นต้นแบบในการนำชุมชนรักษาสุขภาพอนามัย ในการรักษาสุขภาพอนามัย ก็ต้องรักษาสุขภาพของพระสงฆ์ รวมทั้งตัวเราก่อน ให้มีความแข็งแรง คือปราศจากโรคติดต่อ ปราศจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ ก็มีการตรวจ(ร่างกาย)ประจำปี และก็ การควบคุมอาหาร ตามพุทธบัญญัติ พิจารณาการฉันท์อาหาร ในการทำกิจวัตรประจำวัน และนำหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหลักในการดำเนินชีวิต เช่น 5 อ. อาหาร อากาศ ออกกำลังกาย เมื่อวัดของเราเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ก็แนะนำชุมชน ให้รู้จักการออกกำลังกาย ให้รู้จักการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อจะป้องกันโรค เมื่อมีโรค ก็ต้องรักษา เมื่อมีการรักษาเสร็จแล้ว ก็ต้องมีการฟื้นฟู เพื่อที่จะให้โรคที่เกิดขึ้น หายไป ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ เป็นการช่วยเหลือชุมชนด้วย และรักษาตัวเราเองด้วย

จึงถือได้ว่า วัดต่อแพนั้น เป็นวัดที่มั่นคง เพราะมีพระอยู่ดี อยู่ได้ อยู่เป็น อยู่ด้วยพระธรรมวินัย และได้รับการดูแลจากชุมชน เป็นศูนย์รวมจิตใจ และเป็นที่พึ่งทางธรรม เมื่อพระภิกษุสงฆ์สุขภาพดี ทั้งกายและใจ การเรียนธรรม การสอนธรรม และการปฏิบัติธรรมจึงดำเนินไปอย่างราบรื่น ทำให้ชุมชนบ้านต่อแพ ซึ่งเป็นชุมชนคุณธรรม น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ส่งผลให้ชาวบ้านต่อแพอยู่เย็นเป็นสุข

ทั้งนี้ หมู่คณะสงฆ์ อาสาสมัคร ศรัทธาประชาชนและญาติโยม ต่าง ร่วมกันขับเคลื่อนงานวัดส่งเสริมสุขภาพ ส่งผลให้วัดต่อแพ เป็นศูนย์กลางแห่งสุขภาวะ ทั้งกาย ใจ และสังคมอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่ความเจริญของศาสนาและชุมชนอย่างยั่งยืน.