‘โฆษกกลาโหมกัมพูชา’ แถลงเริ่มการถอนอาวุธหนัก ระยะที่ 1 เมื่อเวลา 18.45 น. ที่ผ่านมา

 ‘โฆษกกลาโหมกัมพูชา’ แถลงเริ่มการถอนอาวุธหนัก ระยะที่ 1 เมื่อเวลา 18.45 น. ที่ผ่านมา ภายใต้การสังเกตการณ์ของผู้สังเกตการณ์อาเซียน 

พลเอกกญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมราชอาณาจักรกัมพูชา ขอแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทั้งภาครัฐและต่างประเทศทราบ

เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาและประเทศไทย ที่จะเคารพและนําสิ่งที่ตกลงกันไว้ในแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย ลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2025 รวมถึงจิตวิญญาณของการประชุมพิเศษครั้งที่สองของ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) ที่จัดขึ้นในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2025 ในวันที่ 31 เดือนตุลาคม 2025 ภูมิภาคทหารที่ 4 ของ กัมพูชา และกองทัพภาคที่ 2 ของไทย จัดการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทหารบกกัมพูชา-ไทย (RBC) ตามแผนการถอนอาวุธหนัก

ตามแผนการที่ตกลงกันไว้ ทั้งสองฝ่ายกําหนดให้ใช้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2025 เวลา 18.45 น. เป็นการเริ่มต้นการถอนอาวุธหนัก ระยะที่ 1 ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะดําเนินการภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของกลุ่มผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) 

การปรับเปลี่ยนอาวุธหนัก สําหรับระยะที่ 1 จะเกิดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 21 พฤศจิกายน 2025 ทั้งนี้ หลังจากลงนามในแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์ ทั้งสองฝ่ายได้ถอนตัวในส่วนของขั้นตอนแรก โดยนํารถถัง 2 คัน ของแต่ละฝ่าย กลับออกไปยังตําแหน่งเดิม ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2025 เวลา 09.00 น.

สําหรับฝั่งกัมพูชา ได้มีการถอนอาวุธหนักในระยะแรกนี้ 2 แห่ง ได้แก่ ในเขตตําบลเจียมคสันติ์ อ.แพร่เวียง จ.แพร่วิหาร นอกเหนือจากนั้น ฝั่งไทยจะปรับเปลี่ยนอาวุธหนักในระยะแรกนี้ด้วย

กัมพูชาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองฝ่ายจะนําแถลงการณ์ร่วมกัวลาลัมเปอร์เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย มาปฏิบัติด้วยความจริงใจ และความโปร่งใส เพื่อร่วมกันส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง ความร่วมมือ การพัฒนา ให้กลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศและผู้คนอีกหลายชั่วอายุคน

ตามที่ระบุไว้ข้างต้น แจ้งให้ทราบว่านักข่าวภาครัฐ ประเทศ และต่างประเทศ

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2025