Ticker

6/recent/ticker-posts

เรื่องเล่าจากหม้อใหญ่ที่หอมคลุ้งทั้งบ้าน “ต้มจับฉ่ายตีนไก่สูตรอากง

เรื่องเล่าจากหม้อใหญ่ที่หอมคลุ้งทั้งบ้าน

“ต้มจับฉ่ายตีนไก่สูตรอากง – เข้มข้นถึงเครื่อง ได้รสโบราณแท้ เสิร์ฟความอบอุ่นที่ไม่เคยจาง”

ต้มจับฉ่ายเป็นเมนูที่หลายบ้านรู้จักดี โดยเฉพาะครอบครัวเชื้อสายจีนที่มักจะมีสูตรเฉพาะของแต่ละบ้าน ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น บางบ้านเน้นผัก บางบ้านเน้นน้ำซุปหวาน บางบ้านเน้นกลิ่นเครื่องยาจีน แต่มีอีกแบบหนึ่งที่หาไม่ง่ายนัก นั่นคือ “ต้มจับฉ่ายตีนไก่สูตรอากง” เมนูที่ฉันได้เติบโตมากับกลิ่นหอมของเห็ดแห้ง เกลียวเครื่องพะโล้ และความเหนียวนุ่มของตีนไก่ที่เคี่ยวจนเปื่อยละลายในปาก

วันนี้จะพามาเปิดประสบการณ์ตั้งแต่ตอนเด็กที่เคยนั่งรออากงค่อย ๆ เคี่ยวหม้อจับฉ่ายใบใหญ่ กับการคอยลุ้นว่าเมื่อไหร่จะได้ตักน้ำซุปร้อน ๆ มากินกับข้าวสวยร้อน ๆ สุดท้ายก็ตั้งใจลองทำตามสูตรเดิมที่อากงเคยบอก แม้จะไม่เก่งเท่าท่าน แต่ก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อจะได้ลิ้มรส “ความทรงจำ” ในจานอาหารอีกครั้ง


และนี่คือสูตรเต็ม พร้อมวิธีทำอย่างละเอียด รวมถึงความรู้สึกอบอุ่นระหว่างกระบวนการทำที่อยากถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้สัมผัสไปพร้อมกัน

[บทความแนะนำ:  เรื่องเล่าจากหม้อใหญ่ ต้มจับฉ่ายสูตร"อากง"]


วัตถุดิบตามแบบฉบับอากง


ส่วนผสมที่อากงเน้นคือของง่าย ๆ แต่ต้องเลือกอย่างดี จึงจะได้รสชาติแบบโบราณแท้ ๆ


ตีนไก่ – อากงบอกเสมอว่าตีนต้องสดและสะอาด ที่สำคัญต้องลวกให้ดีไม่ให้คาว


หัวไชเท้า (หัวไชเถ้า) หั่นชิ้นใหญ่ จะให้ความหวานลึกแบบธรรมชาติ


เห็ดหอมแห้ง แช่น้ำให้นิ่มแล้วหั่นหรือใช้ทั้งดอกก็ได้


กุ้ยช่าย – เพิ่มความหอมหวาน เป็นตัวเด่นของจับฉ่าย


กวางตุ้ง – ผักใบใหญ่ เนื้อกรอบนุ่ม เคี่ยวแล้วหวานไม่เหมือนผักอื่น


รากผักชี – ตำให้ละเอียด ใช้ดับกลิ่นคาวและเพิ่มความหอม


พริกไทยเม็ด – ตำพอแตก ตามสูตรอากงที่ชอบเผ็ดร้อนแต่ไม่แหลม


เครื่องพะโล้ – หัวใจของกลิ่นแบบโบราณ


ซีอิ๊วดำ – เน้นใช้แบบเข้มข้นให้สีสวย


ซอสหอยนางรม – ให้ความกลมกล่อม ไม่เค็มโดด




เพิ่มเติมตามสมัยใหม่


ซีอิ๊วขาว


น้ำตาลกรวดหรือไม่มีก็ใช้น้ำตาลปี๊บเพียงเล็กน้อย

อากงไม่ชอบใส่น้ำตาลเยอะเพราะบอกว่า “หวานต้องมาจากผัก ไม่ใช่มาจากน้ำตาล” ซึ่งเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ต้มจับฉ่ายของท่านมีความหวานละมุนแบบไม่ฝืนธรรมชาติ


ขั้นตอนการทำ – จากหม้อใหญ่สู่รสชาติกลมกล่อม


1. เตรียมตีนไก่ให้สะอาดและหอมไม่คาว


ตอนเด็กฉันชอบช่วยอากงล้างตีนไก่ อากงจะบอกให้ใช้กรรไกรตัดเล็บไก่ออกทุกข้อ บอกว่าถ้าไม่ตัดเล็บจะ “ไม่เรียบร้อย” และอาจทำให้คาว

ล้างด้วยเกลือและน้ำส้มสายชูหนึ่งรอบ จากนั้นลวกในน้ำเดือดใส่รากผักชีและขิงทุบเล็กน้อย

พอลวกเสร็จก็แช่น้ำเย็นทันทีเพื่อให้ตีนไก่เด้งกรอบ และกลิ่นคาวหายหมด


2. เคี่ยวเห็ดหอมกับเครื่องพะโล้


อากงจะเริ่มจากการเอาน้ำแช่เห็ดหอมมากรองแล้วใส่หม้อยกขึ้นตั้งเตา ความหอมที่ลอยขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าเมนูนี้กำลังจะได้เรื่อง

ตามด้วยผูกถุงเครื่องพะโล้หรือใส่เครื่องพะโล้บดหยาบลงไป ตามสไตล์บ้านใครบ้านมัน


3. ผัดผักให้หอมก่อนลงหม้อ


นี่คือเทคนิคที่ทำให้จับฉ่ายแบบอากงต่างจากร้านทั่วไป

อากงจะผัดกะทะใบใหญ่ ใช้น้ำมันน้อย ๆ ผัดรากผักชี พริกไทย ซีอิ๊วขาว และผักทุกชนิดให้หอมและสลดก่อน

โดยเฉพาะหัวไชเท้า ต้องผัดจนหน้าผักเริ่มเป็นเงาและส่งกลิ่นหวานขึ้นจมูก

ขั้นตอนนี้ช่วยให้รสผักชัดขึ้น 3 เท่าตอนเคี่ยว


4. เคี่ยวทุกอย่างรวมกันแบบใจเย็น



เมื่อทุกอย่างพร้อม อากงจะค่อย ๆ เทผักลงหม้อน้ำซุปเห็ดหอม

ตามด้วยตีนไก่ลวกแล้ว

ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วขาวตามชอบ


อากงจะไม่รีบร้อน ท่านมักจะนั่งจิบชาแล้วคอยเปิดฝาหม้อ “เช็กกลิ่น” ทุก 15 นาที

หม้อนี้ต้อง เคี่ยวอย่างน้อย 1.30 – 2 ชั่วโมง

ตีนไก่จะเปื่อยนุ่มแต่ไม่เละ หัวไชเท้าจะหวานนิ่งและนุ่มจนแทบละลายในปาก


ประสบการณ์ลงมือทำเองครั้งแรก – กลิ่นอากงลอยกลับมา


ครั้งแรกที่ลองทำเอง ความรู้สึกแรกคือ คิดถึงอากงมาก

ตอนยืนผัดผัก กลิ่นรากผักชีและพริกไทยที่ลอยขึ้นเตามันเหมือนพาให้ย้อนกลับไปตอนวัยเด็ก ยืนข้างกายอากงที่หน้าครัว

ตอนเคี่ยวหม้อจับฉ่าย ฉันก็ทำเหมือนอากงคือเปิดฝาแล้วดมกลิ่น จนบางครั้งรู้สึกเหมือนท่านยืนอยู่ข้าง ๆ



หลังเคี่ยวครบสองชั่วโมง สีของน้ำซุปกลมเข้มข้นจนเห็นได้ชัด ตีนไก่พองสวย นิ่มแบบกำลังดี ผักทุกชนิดเข้ากันเหมือนละลายในน้ำซุป กลิ่นเครื่องพะโล้ไม่แรงจนเกินไปแต่หอมลึกแบบโบราณ


พอตักคำแรกเข้าปาก สิ่งที่สัมผัสได้ไม่ใช่แค่รสชาติ

แต่มันคือความทรงจำ ความผูกพัน และกลิ่นครัวของบ้านสมัยก่อน

เป็นความรู้สึกที่อาหารสมัยใหม่ให้ไม่ได้จริง ๆ



เคล็ดลับที่ได้จากอากง


1. ผักคือหัวใจ ต้องผัดให้หอมก่อนเคี่ยว

ทำให้รสชาติเข้มข้นและผักหวานกว่าเดิมมาก



2. ไม่ใช้ผงปรุงรสเด็ดขาด

อากงบอกว่า “เปลี่ยนรสกลิ่นของผักหมด”



3. น้ำแช่เห็ดหอมคือสมบัติ

ห้ามเททิ้งเด็ดขาด เพราะช่วยให้ซุปหอมแบบโบราณ



4. เคี่ยวอ่อน ๆ แบบไฟใจเย็น

ยิ่งเคี่ยวนาน ยิ่งกลมกล่อม รสชาติประสานกันจนเป็นหนึ่งเดียว



5. ตีนไก่ต้องล้างดีและลวกให้หอมก่อนใส่หม้อ

ไม่งั้นจะกลบรสผักทั้งหมด


เสิร์ฟอย่างไรให้อร่อยที่สุด


กินกับ ข้าวสวยร้อน ๆ คือที่สุด


บางคนชอบให้เหลือน้ำซุปขลุกขลิก บางคนชอบน้ำเยอะ ๆ


ทิ้งไว้ข้ามคืนรสยิ่งเข้ม แบบที่อากงชอบบอกว่า “รอให้น้ำเข้าเนื้อก่อนค่อยกิน”


ถ้าอยากให้เข้มข้นแบบร้านจีนโบราณ ให้เคี่ยวผักกุ้ยช่ายและหัวไชเท้าเพิ่มเป็นพิเศษ



สรุป – ต้มจับฉ่ายตีนไก่สูตรอากงคือรสชาติของความทรงจำ


เมนูนี้ไม่ใช่อาหารธรรมดา แต่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างรุ่นสู่รุ่น

ทุกขั้นตอนตั้งแต่การล้างตีนไก่จนถึงการเคี่ยวหม้อใหญ่กว่า 2 ชั่วโมง ล้วนเต็มไปด้วยความตั้งใจและความหมาย

มันทำให้เราได้เรียนรู้ว่า

“อาหารอร่อยไม่ใช่เพราะวัตถุดิบแพง แต่เพราะความใส่ใจในทุกขั้นตอน และเพราะความรักที่ใส่ลงไปในหม้อเดียวกัน”


หากใครอยากลองทำ ฉันรับประกันว่ารสจับฉ่ายแบบโบราณจะติดปลายลิ้น และอาจทำให้คุณคิดถึงบ้าน…เหมือนที่ฉันคิดถึงอากงทุกครั้งที่ต้มเมนูนี้

[บทความแนะนำ: คากิเตาถ่านสูตรบ้านๆ]

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น