19 มิ.ย. มีการจัดงานประกาศรางวัล “The World’s 50 Best Restaurants” ประจำปี 2025 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรางวัลออสการ์ของแวดวงอาหาร มอบให้กับร้านอาหาร 50 แห่งที่ดีที่สุดในโลก
การจัดอันดับมาจากคะแนนโหวตของ World’s 50 Best Restaurants Academy ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมร้านอาหารระดับนานาชาติกว่า 1,100 คน รวมถึงนักเขียนและเชฟด้านอาหาร ใน 28 ภูมิภาคทั่วโลก
ที่น่ายินดีคือ ปีนี้มีร้านอาหารในประเทศไทยติดอันดับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ถึง 6 ร้าน! โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งติดอันดับ 4 ร้าน
อันดับ 6 กากัน (Gaggan) – กรุงเทพ
เชฟชาวอินเดีย กากัน อนันต์ (Gaggan Anand) จากเมืองโกลกาตา หาเลี้ยงชีพด้วยดนตรีก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการอาหาร จากเด็กฝึกในเครือโรงแรมหรู Taj Group เขาได้ก้าวหน้าจนไปทำงานที่ El Bulli ในสเปน และทำให้เขาหลงรักอาหารโมเลกุลาร์
เขาก่อตั้งร้านอาหารแห่งแรกในกรุงเทพฯ ชื่อ กากัน ในปี 2010 ซึ่งเพิ่งได้รับตำแหน่งร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นครั้งที่ 5 (ปี 2015, 2016, 2017, 2018 และ 2025)
เมนูของกากันได้รับอิทธิพลจากอาหารอินเดีย ผสมผสานกับฝรั่งเศส ไทย และญี่ปุ่น มีความไม่เหมือนใครด้วยลูกเล่นการใช้อีโมจิเพื่อแทนแต่ละคอร์ส ไปจนถึงการให้ลูกค้ากินอาหารด้วยมือหรือแม้แต่เลียจาน
อันดับ 13 โพทง (Potong) – กรุงเทพ
ร้านอาหารโพทงของ เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ได้รับรางวัลมากมายตั้งแต่เปิดร้านในปี 2021 นำเสนอเมนูชิมอาหารไทย-จีนที่สร้างสรรค์ในใจกลางย่านเยาวราชของกรุงเทพฯ โดยในปี 2025 นี้เพิ่งคว้าอันดับ 13 รางวัล Highest New Entry Award 2025
อาหารของร้าน Potong เน้นที่ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ เกลือ กรด เครื่องเทศ เนื้อสัมผัส และปฏิกิริยา Maillard (กระบวนการทางเคมีในการลดน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่น)
การชิมอาหารเริ่มต้นด้วยชาร์กูเตอรีโฮมเมดและไวน์ที่เข้ากัน ก่อนจะดำเนินต่อไปด้วยคอร์สต่าง ๆ เช่น Historical Stories ที่มีไข่ปู ปูทะเล และขนมปังบรียอช หรือคอร์ส Bold ที่ใช้เป็ดอายุ 14 วัน และคอร์ส Heritage ที่มีใบเตย ถั่วเคลือบเนยและมะขาม เป็นองค์ประกอบ
อันดับ 17 ศรณ์ (Sorn) – กรุงเทพ
เชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ เติบโตมากับอาหารใต้ของยาย และได้ใช้วิสัยทัศน์ส่วนตัวแปลงอาหารใต้ของไทยที่หลากหลายให้กลายเป็นอาหารแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร โดยยังคงไว้ซึ่งรสชาติที่เผ็ดลิ้นระเบิดที่ไม่ลดทอนความเผ็ดร้อนของพริกเลย
ศรณ์ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่จองยากที่สุดในประเทศไทย และเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยมก็คือการบริการที่ไร้ที่ติ ทีมงานต้อนรับได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและความทรงจำที่เชฟใส่ลงไปในทุกจาน ในแต่ละคำที่กัด คุณจะได้รับแรงบันดาลใจจากความรักและความหลงใหลของไอซ์ที่มีต่อภาคใต้
อาหารทุกจานที่เสิร์ฟที่ศรณ์นั้นไวต่ออุณหภูมิมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เชฟให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และทีมงานในครัวของเขาจะปรุงอาหารทุกจานด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ดังนั้นอย่าใช้เวลานานเกินไปในการถ่ายรูปอาหารเหล่านี้ ด้วยการควบคุมอุณหภูมิของอาหาร ศรณ์จึงสามารถถ่ายทอดลำดัการกระตุ้นประสาทสัมผัสได้ ซึ่งเพิ่มมิติใหม่ให้กับอาหารไทย
เมนูเด่นเช่น กรรเชียงปูเวอร์ชันของศรณ์ ผสมผสานสองส่วนที่มีค่าที่สุดของปูเข้าด้วยกัน ได้แก่ ไข่ปูและขาปู เนื้อปูที่อวบอิ่มและชุ่มฉ่ำเสิร์ฟแบบเย็นและเคลือบด้วยไข่ปูในครกหินแกรนิตขนาดเล็กซึ่งมีซอสพริกสีเหลืองเผ็ดร้อนอยู่ข้างใน
อันดับ 22 ซูห์ริง (Sühring) – กรุงเทพ
สองพี่น้องฝาแฝด มาธีอัส ซูห์ริง และโทมัส ซูห์ริง ได้ผสมผสานรสชาติ เทคนิค และประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากประเทศเยอรมนี บ้านเกิดของพวกเขา รวมถึงเนเธอร์แลนด์ อิตาลี และไทย มาไว้ในเมนูของร้าน จนออกมาเป็นเมนูอาหารชั้นสูงตามฤดูกาลที่มีความซับซ้อนและบางครั้งก็สนุกสนาน ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบเยอรมันอย่างชัดเจน
อาหารที่นี่ให้ความรู้สึกของเครื่องเทศรสจัดที่ผสมอย่างลงตัวกับอิทธิพลของยุโรป และอาหารจานเด็ดในเมนูได้แก่ หอยเชลล์กับฟักทองและสาหร่ายทะเล กุ้งมังกรกับวานิลลา ลูกพลับ และเฮเซลนัท เนื้อวากิว A5 ของคาโกชิมะกับแครอตคินโทกิและหางวัว และบะหมี่สปาตเซิลราดด้วยเห็ดทรัฟเฟิล Périgord
ซูห์ริงได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 2 ดวงตั้งแต่ปี 2018 สัมผัสประสบการณ์เต็มรูปแบบด้วยการจับคู่ไวน์ซึ่งประกอบด้วยแก้วจาก Rheingau ในเยอรมนีและ Kremstal ในออสเตรีย
อันดับ 30 ฤดู (Le Du) – กรุงเทพ
ตั้งแต่ปี 2013 เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ได้เผยแพร่อาหารไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักผ่านอาหารของเขา ร้านฤดูจะเสิร์ฟอาหารที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นเดียวกับชื่อร่าน มีเมนูร่วมสมัยที่เน้นเทคนิคต่าง ๆ จับคู่กับส่วนผสมตามฤดูกาล
ในเมนูคอร์ส 4 หรือ 6 จาน คุณจะได้ลิ้มรสอาหารอย่างข้าวแช่ซึ่งเป็นอาหารหลักของไทยในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถูกรังสรรค์ใหม่ด้วยไอศกรีมหอมมะลิเนื้อครีมจับคู่กับปาเตหมู กุ้ง และหัวไชเท้าดอง หรือปลาเก๋าเนื้อนุ่มจับคู่กับไข่มดแดงชั้นดี
อันดับ 35 นุสรา (Nusara) – กรุงเทพ
เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เขาเปิดร้านนุสราในปี 2020 ร่วมกับ ตาม-ชัยสิริ ทัศนาขจร น้องชายของเขา ร้านอาหารแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณย่าผู้เป็นที่รักของพวกเขา สังเกตได้จากชื่อร้านที่นำชื่อคุณย่ามาตั้ง
นุสราเป็นห้องอาหารขนาดเล็กที่รองรับแขกได้เพียง 10 คน แต่กลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองอย่างรวดเร็ว และในปี 2025 ร้านอาหารแห่งนี้ก็ได้เปิดตัวในรายชื่อ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก
ร้านอาหารแห่งนี้ของเชฟต้นยังคงเน้นวัตถุดิบของประเทศไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสูตรอาหารของครอบครัว รวมถึงตำราอาหารจากห้องเครื่องของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำมาปรับให้เป็นอาหารไทยสมัยใหม่ที่ผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับนวัตกรรม
แกงปูทะเลสีสันสดใสกลายเป็นหนึ่งในเมนูที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของร้านอาหาร โดยเสิร์ฟพร้อมเส้นกรอบ อาหารเรียกน้ำย่อยรสจัดจ้านเป็นเมนูแนะนำที่สมบูรณ์แบบสำหรับมื้ออาหารที่เน้นรสชาติไทยคลาสสิกที่ปรุงแต่งใหม่ให้มีความพิเศษยิ่งขึ้น อาหารจานหลักเสิร์ฟแบบครอบครัวตามธรรมเนียมของประเทศไทย เช่น สลัดปลาหมึกกับซอสหมึกและปลาหมึกย่าง แกงพะแนงและเนื้ออกวัว พริกไทยดำและมะเขือเทศเชอร์รี ฝรั่งสีชมพูและกระเจี๊ยบแดง และแซนด์วิชไอศกรีมไทย
อันดับ 1 ในปีนี้เป็นของร้านอาหารในเปรู
ได้เห็นโฉมหน้าร้านอาหารทั้ง 6 แห่งที่เป็นความภาคภูมิใจของไทยไปแล้ว ก็มาดูอันดับ 1 ของโลกในปีนี้กันบ้าง โดยเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู
และผู้ที่คว้าอันดับ 1 ไปครองไปสำเร็จคือ ร้าน “Maido” ซึ่งติดอันดับ 5 ในการจัดอันดับของปีที่แล้ว โดยมีเชฟ ทสึมูระ มิตสึฮารุ เป็นเจ้าของและพ่อครัว
ร้าน Maido ให้บริการอาหารที่เรียกว่า “Nikkei Cuisine” ซึ่งผสมผสานเทคนิคแบบญี่ปุ่นที่พิถีพิถันกับวัตถุดิบจากเปรูที่สดใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมและทันสมัยอย่างสร้างสรรค์
ส่วนอันดับ 2 เป็นของร้าน “Asador Etxebarri” ใน Atxondo ประเทศสเปน ขณะที่ร้าน “Quintonil” จากเม็กซิโกซิตีคว้าอันดับ 3 ตามมาด้วยร้าน “Diverxo” ในมาดริดของสเปน อยู่ในอันดับ 4 และร้าน “Alchemist” จากโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก คว้าอันดับ 5 ไปครอง
เรียบเรียงจาก CNN / 50 Best Restaurant
0 ความคิดเห็น