กรมราชทัณฑ์แจงปรับพื้นที่เรือนจำคลองเปรม หลังอดีต สว. ตั้งคำถามออกคำสั่งก่อนศาลฎีกาฯ ตัดสิน “คดีชั้น 14”
วันนี้ (13 ก.ย.) กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรม สรุปสาระสำคัญได้ว่า อาณาเขตของเรือนจำกลางคลองเปรมที่เพิ่มมานั้น เป็นเขตพื้นที่เดิมของเรือนจำ ก่อนกำหนดให้ไปอยู่ในการครอบครองดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เมื่อ 23 มิ.ย. 2565 เพื่อให้สามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
ส่วนการกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่ “เป็นการคืนพื้นที่ให้กลับมาอยู่ภายใต้การครอบครองดูแลของเรือนจำกลางคลองเปรมตามเดิม” เพื่อประโยชน์ในการควบคุมผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีจำนวนมากให้เป็นไปตามผลการจำแนกลักษณะและให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องขณะอยู่ในเรือนจำให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสมต่อไป
.
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2568 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงยุติธรรม 2 ฉบับ เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรม และกำหนดอาณาเขตทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ลงนามโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในเวลา 4 วัน ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (อม.) จะอ่านคำสั่งคดีบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 1 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ “คดีชั้น 14”
.
สาระสำคัญของประกาศคือ การกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรมขึ้นใหม่ ณ ที่ตั้งเดิม จากเดิมมีเนื้อที่ 118 ไร่ 1 ตารางวา เป็นเนื้อที่ 124 ไร่ 1 งาน 1 ตารางวา โดยมีอาณาเขตเพิ่มจำนวน 6 ไร่ 1 งาน ทั้งนี้ ในแผนที่แสดงอาณาเขตท้ายประกาศ พบว่า ทัณฑ์สถาน รพ.ราชทัณฑ์ เป็นส่วนหนึ่งของเรือนจำกลางคลองเปรมด้วย
.
เย็นวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่เข้าเรือนจำ นายทักษิณถูกย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปที่เรือนจำกลางคลองเปรม ปรากฏภาพใส่ชุดผู้ต้องขังสีฟ้า ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า “เนื่องจากเป็นนักโทษเด็ดขาด เพื่อแยกการปฏิบัติตามประเภทของผู้ต้องขังอย่างเหมาะสม”
.
ต่อมา นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งคำถามถึง รมว.ยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอให้ช่วยอธิบายให้ชัดเจน กระจ่างแจ้ง แก้ความสงสัยให้สังคมได้รับทราบด่วนว่า เหตุใดจึงต้องมีการปรับพื้นที่เขตเรือนจำคลองเปรมเพิ่มใหม่ เข้าไปในพื้นที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ในวันที่ 5 ก.ย.และศาลฎีกาฯ อ่านคำสั่งบังคับคดีชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.
.
“เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร เหตุผลใด เกี่ยวข้องกับการคุมตัวนักโทษ VVIP อย่างไร รอฟังคำชี้แจงชัด ๆ” นายสมชายตั้งคำถามผ่านเฟซบุ๊กของเขาเมื่อ 11 ก.ย. ก่อนที่กรมราชทัณฑ์จะชี้แจงในวันนี้
.
เอกสารข่าวกรมราชทัณฑ์ยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันเรือนจำกลางคลองเปรมมีผู้ต้องขังจำนวนมาก มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ประกอบกับ ผู้ต้องขังพิการ 42 คน, ผู้ต้องขังที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 385 คน, ผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง 22 คน, อีกทั้งยังเป็นเรือนจำรับย้ายผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจจากเรือนจำ/ทัณฑสถานอื่น จึงมีแนวโน้มที่จำนวนผู้ต้องขังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สภาพความเป็นอยู่เกิดความแออัด ประกอบกับทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ หมดความจำเป็นในการใช้พื้นที่ดังกล่าวในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทั้งการควบคุมและการพัฒนาพฤตินิสัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมราชทัณฑ์ จึงเสนอกระทรวงยุติธรรมพิจารณาปรับเพิ่มอาณาเขตของเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่ โดยคืนพื้นที่ที่ไปอยู่ในการครอบครองดูแลของทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ให้กลับมาอยู่ในการครอบครองดูแลของเรือนจำกลางคลองเปรมตามเดิม
.
กรมราชทัณฑ์ยังระบุด้วยว่า ในปีงบประมาณ 2567 มีการประกาศกำหนดอาณาเขตของเรือนจำ 16 แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง สังกัดเรือนจำกลางเชียงราย เรือนจำกลางเพชรบุรี และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต, ในปีงบประมาณ 2568 ถึงปัจจุบัน มีการประกาศกำหนดอาณาเขตของเรือนจำ 7 แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราวเขาสมอแคลง สังกัดเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก, เรือนจำพิเศษพัทยา และเรือนจำกลางคลองเปรม
.
ย้อนดูบันทึกการไต่สวน “คดีชั้น 14” ได้ที่นี่
https://bbc.in/4m7Zf4V

0 ความคิดเห็น