🇰🇭 วิกฤตราคามันสำปะหลัง! เกษตรกรกัมพูชาทรุด ราคาดิ่งต่ำสุดในรอบหลายปี เหลือเพียง 0.30–0.80 บาท/กก. หลังปิดด่านชายแดน-ขนส่งติดขัด
🇰🇭 กัมพูชาเผชิญวิกฤตราคามันสำปะหลังตกต่ำหนัก
ปัญหาชายแดน–การค้าสะดุด ฉุดราคามันสำปะหลังร่วงจาก 340 เรียล เหลือแค่ 100 เรียล/กก.
สถานการณ์ผลผลิตทางการเกษตรของกัมพูชากำลังเข้าสู่ภาวะน่ากังวล เมื่อ มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นผลผลิตเกษตรอันดับ 2 ของประเทศ และเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของเกษตรกรจำนวนมาก กำลังเผชิญภาวะ ราคาตกต่ำรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี
จากช่วงต้นฤดูที่เคยมีราคา 340 เรียล/กก. (ประมาณ 2.76 บาท) กลับดิ่งลงไปเหลือเพียง 100 เรียล หรืออาจต่ำกว่า (ประมาณ 0.80 บาท/กก.) โดยเฉพาะในจังหวัดอุดรมีชัย พื้นที่แนวชายแดนพิพาทติดกับประเทศไทย
ไม่เพียงเท่านั้น รายงานจากสื่อนานาชาติยังเปิดเผยว่า ราคาจริงที่เกษตรกรหลายพื้นที่ขายได้อาจต่ำกว่า 50 สตางค์/กก. และบางแห่งซื้อขายกันเพียง 30–40 สตางค์/กก. เท่านั้น
🚧 การปิดด่านชายแดน–มาตรการเข้มงวดของไทย ฉุดราคาดิ่งเหว
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคามันสำปะหลังตกต่ำ เกิดจากการปะทะและความตึงเครียดบริเวณชายแดน ส่งผลให้ ด่านการค้าถูกปิด ประกอบกับ ทางการไทยเข้มงวดเรื่องการนำเข้าผลผลิตมันสำปะหลังจากกัมพูชา มากขึ้น
แต่เดิมเกษตรกรส่วนใหญ่พึ่งพาการขนผลผลิตเข้ามาขายฝั่งไทยเพื่อแปรรูป เมื่อเส้นทางหลักถูกปิด ทำให้มันสำปะหลังที่กัมพูชามีผลผลิตรวมกว่า 16 ล้านตันในปีนี้ ถูกดองอยู่ในพื้นที่โดยไม่มีตลาดรองรับ
💸 ราคาตกต่ำ–ต้นทุนพุ่ง เกษตรกรขาดทุนย่อยยับ
ราคาที่ตกต่ำกว่าต้นทุนผลิต ทำให้เกษตรกรจำนวนมาก ตกอยู่ในภาวะขาดทุน เพราะต้องจ่ายค่าคนงานขุด ค่าขนส่ง ค่าจ้างแรงงานเก็บเกี่ยว ในขณะที่ราคาขายไม่สามารถครอบคลุมต้นทุนได้แม้แต่ส่วนหนึ่ง
หลายครอบครัวเริ่มกลายเป็นหนี้สินหนักขึ้น เนื่องจากไม่อาจขายผลผลิตได้ตามปกติ บางรายตัดสินใจ ขนมันสำปะหลังไปขายฝั่งเวียดนาม แม้ต้องเดินทางไกลกว่า 400 กิโลเมตร แต่ก็ยังประสบปัญหาเดียวกัน เพราะราคาที่เวียดนามเองก็ต่ำไม่ต่างกัน การขนส่งไกลทำให้ขาดทุนยิ่งกว่าเดิม
🌾 ผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจครัวเรือน
ภาวะราคามันสำปะหลังตกต่ำไม่เพียงกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งระบบ เช่น
โรงงานรับซื้อผลผลิตลดจำนวนการรับซื้อ
แรงงานรับจ้างรายวันขาดรายได้
พ่อค้า–ผู้รวบรวมผลผลิตขาดทุนจากค่าขนส่ง
ชุมชนในพื้นที่การผลิตเกิดภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ
ด้วยผลผลิตกว่า 16 ล้านตันที่กำลังถูกค้างอยู่ในระบบ นี่อาจเป็นหนึ่งในวิกฤตการเกษตรครั้งใหญ่ของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
---
🔎 ทางออกที่ยังมืดมน
ในขณะนี้รัฐบาลกัมพูชาอยู่ระหว่างการหารือเพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกร เช่น
เปิดเส้นทางการค้าทางเลือก
เจรจาการนำเข้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
สนับสนุนโรงงานในประเทศให้รับซื้อมากขึ้น
เร่งพัฒนาโรงงานแปรรูปภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาตลาดไทย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรมองว่า แม้จะมีมาตรการเร่งด่วน แต่กว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติอาจใช้เวลานาน และต้องอาศัยความร่วมมือระดับภูมิภาค
---
📍 สรุป: วิกฤตราคามันสำปะหลังของกัมพูชา คือผลกระทบจากความเปราะบางของการพึ่งพาการส่งออกข้ามแดน
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า การพึ่งพาตลาดเดียวหรือเส้นทางเดียวเพียงอย่างเดียว ทำให้เกษตรกรเสี่ยงหนักเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การปิดด่าน การปะทะ หรือมาตรการนำเข้าที่เข้มงวด
เกษตรกรกัมพูชาจำนวนมากกำลังตกอยู่ในภาวะ โดนบีบจากทั้งราคา–ต้นทุน–ตลาด และหากไม่สามารถหาช่องทางการค้าทดแทนได้ทันเวลา วิกฤตนี้อาจทิ้งรอยแผลยาวนานต่อเศรษฐกิจชนบทของกัมพูชา



0 ความคิดเห็น