Ticker

6/recent/ticker-posts

ประวัติและที่มาของ "ปาท่องโก๋" ขนมทอดกรอบแท่งคู่ 🥖🥖

 ประวัติและที่มาของ "ปาท่องโก๋" ขนมทอดกรอบแท่งคู่

🥖🥖


#ปาท่องโก๋

ที่เราคุ้นเคยกันดีในประเทศไทยนั้น แท้จริงแล้วมีประวัติและที่มาที่น่าสนใจและมีความสับสนทางชื่อเรียกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

​🇹🇭

​ปาท่องโก๋ที่เราเห็นเป็นแท่งยาวๆ สองชิ้นติดกันนั้น ในภาษาจีนกลางเรียกว่า โหยวเถียว (油条; Yóutiáo) ซึ่งแปลว่า "ท่อนแป้งทอดน้ำมัน" ส่วนในภาษาแต้จิ๋วจะเรียกว่า อิ่วจาก้วย (油炸粿; Yóu-chá-kué) ซึ่งมีความหมายว่า "ขนมทอดน้ำมัน"

คำว่า "ปาท่องโก๋" (白糖糕; Báitánggāo) หรือในภาษาแต้จิ๋วว่า "แปะทึงกอ" นั้น จริงๆ แล้วเป็นชื่อของขนมอีกชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเป็นขนมแป้งข้าวเจ้าสีขาว มีรสหวานและเนื้อสัมผัสคล้ายขนมถ้วยฟู


​ความสับสนนี้เชื่อว่าเกิดจากในอดีต พ่อค้าชาวจีนมักจะขายขนมทั้งสองชนิดนี้ คือ อิ่วจาก้วย (ปาท่องโก๋แบบแท่งทอด) และ แปะทึงกอ (ปาท่องโก๋แบบขนมหวานสีขาว) บนรถเข็นเดียวกัน เมื่อคนไทยได้ยินพ่อค้าตะโกนขายแต่จำชื่อแรกได้คือ "แปะทึงกอ" จึงเรียกขนมทอดที่ซื้อมาว่า "ปาท่องโก๋" จนกลายเป็นชื่อเรียกที่ติดปากและใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน


​ตำนานของปาท่องโก๋ (อิ่วจาก้วย) มีที่มาจากยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960-1279) ของจีน โดยเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ งักฮุย (岳飛; Yuè Fēi) ข้าราชการทหารผู้ซื่อสัตย์ และ ฉินฮุ่ย (秦檜; Qín Huì) อัครมหาเสนาบดีผู้ทรยศ

​ในสมัยนั้น ฉินฮุ่ยวางแผนใส่ร้ายจนงักฮุยถูกประหารชีวิต ประชาชนต่างโกรธแค้นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้

​จึงมีคนคิดค้นวิธีระบายความแค้นด้วยการทำแป้งเป็นรูปคนสองคน (ซึ่งหมายถึงฉินฮุ่ยและภรรยา) นำมาประกบคู่กันแล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้พองกรอบ จากนั้นก็นำมาเคี้ยวกินเพื่อแสดงความโกรธแค้น


​ด้วยเหตุนี้ ขนมชนิดนี้จึงมีลักษณะเป็นแท่งคู่ที่ติดกันมาจนถึงทุกวันนี้ และในบางพื้นที่ของจีน ขนมชนิดนี้ก็ถูกเรียกว่า โหยวจ๋ากุ่ย (油炸鬼) ซึ่งแปลว่า "ผีทอดน้ำมัน" หรือ "ผีทอดในน้ำมัน" นั่นเอง


The Earth

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น